ครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยว
5 สถานที่ถ่ายรูปสวยๆ แล้วคุณจะหลงรัก
5 สถานที่ชมสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงในเมืองแห่งวัฒนธรรม ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
เมื่อใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี นั่นเป็นสัญญาณบอกถึงฤดูกาลที่กำลังจะเปลี่ยนไป จากสีเขียวก็เริ่มผลัดเปลี่ยนเป็นสีแดงบ้าง ส้มบ้าง เหลืองบ้าง ตามชนิดและช่วงเวลา เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นี่คงไม่ผิดที่เขาเรียกกันว่า "ธรรมชาติแต่งแต้ม"...
ฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นเรียกได้ว่า สวยงามไม่แพ้ที่ใดในโลกเลยทีเดียว และเมื่อสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงได้ผสมผสานกับวัฒนธรรมของเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโต ความงดงามและความประทับใจก็เกิดขึ้น
ในครั้งนี้ขอแนะนำสถานที่ชมใบไม้แดงสวยๆในจังหวัดเกียวโต ที่ไม่เพียงแต่ชาวต่างชาติเท่านั้น เพราะแม้กระทั่งชาวญี่ปุ่นที่เติบโตมาพร้อมฤดูกาลเหล่านี้ ยังอยากมาเที่ยวที่เหล่านี้ให้ได้ซักครั้ง จะมีที่ไหนบ้างไปหลงรัก "Autumn in Kyoto" พร้อมกัน
เลยครับ...
วัดโทฟุคุจิ
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1236 โดยชื่อโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) มาจากการผสมชื่อ 2 วัดดังในจังหวัดนารา (Nara) นั่นคือ วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดพระใหญ่ และ วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) เข้าด้วยกัน วัดโทฟุุคจิยังได้รับการยกย่องว่าเป็น "Kyoto Gozan" หรือ วัดใหญ่ 1 ใน 5 ของลัทธิเซนในเกียวโตอีกด้วย ภายในบริเวณวัด ต้นไม้นานาชนิดกว่า 2000 ต้น จะค่อยๆเปลี่ยนสีไปในโทนแดงและส้ม เล่นระดับสีได้สวยงามมากๆ
<<จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด>>
บริเวณ "สะพานทสึเทนเคียว" (Tsutenkyo Bridge) ค่ะ ซึ่งความหมายก็ดีมากเลย แปลเป็นไทยได้ว่า "สะพานผ่านฟ้า" ที่จะนำพาไปสู่ความสงบสุขที่แท้จริง สะพานแห่งนี้ทอดยาวกว่า 100 เมตร และยกพื้นสูงกว่าพื้นดิน ทำให้เป็นจุดที่มองเห็นใบไม้แดงได้สวยงามราวกับทะเลสีเพลิงเลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากจะได้มุมใบไม้แดงและสะพานเหมือนในรูปนี้ ก็สามารถถ่ายจากทางเดินฝั่งตรงข้ามได้ครับ
ถ้าพูดถึงการเที่ยวในญี่ปุ่น เชื่อว่าใบไม้แดงจะต้องอยู่ในอันดับต้นๆที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน วันนี้ผมเลยจะขอพาไปดูใบไม้แดงสวยๆ ในวัดที่เดินทางสะดวกใจกลางเมืองเกียวโตกัน สถานที่ที่จะแนะนำในวันนี้ก็คือ "วัดโทฟุคุจิ (Tofuku-ji Temple)" ที่มีสวนต้นเมเปิ้ลจำนวนมาก ซึ่งพอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะพากันเปลี่ยนเป็นสีแดงสดสวยงาม
รายละเอียด
วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับดูใบไม้แดง: ปลายพ.ย. - ต้นธ.ค.
ที่ตั้ง: 15-778 Honmachi, Higashiyama-ku, Kyoto-shi, Kyoto MAP
ระยะเวลาทำการ: ตลอดทั้งปี
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลาทำการ: เดือนเม.ย. - ต.ค. 9.00 - 16.00 น. (ประตูปิด 16.30 น.)/ เดือนพ.ย. - ต้นธ.ค. เปิด 8.30 - 16.00 น./ ต้นเดือนธ.ค. - มี.ค. เปิด 9.00 - 15.30 น. (ประตูปิด 16.00 น.)
วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kyoto นั่งรถไฟสาย JR Nara line ประมาณ 5 นาที ลงสถานี Tofukuji เดินต่อ 10 นาที/ รถไฟสาย Keihan main line ลงสถานี Tofukuji เดินต่อ 10 นาที
ค่าใช้จ่าย: ฟรี/ 400 เยน สำหรับสะพาน Tsutenkyo Bridge และ Kaisando Hall
วัดคิโยมิซุเดระ
คำว่า "คิโยมิซุเดระ" (Kiyomozu-dera Temple) แปลเป็นไทยได้ว่า "วัดน้ำใส" ครับ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 780 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกเมื่อปี 1994 อีกด้วย ได้ชื่อว่าวัดน้ำใส แน่นอนว่าต้องมีน้ำใสๆแน่นอน น้ำใสที่ว่าคือ "น้ำตกโอโตวะ โนะ ทาคิ" (Otowa no taki Waterfall) ค่ะ ไหลแยกลงมา 3 สาย โดยเราสามารถดื่มรับความโชคดีได้ ซึ่งแต่ละสายก็มีความเชื่อที่ต่างกันไปว่าจะช่วยเรื่องสุขภาพ, ความรัก, และการงานการศึกษา แต่สายใดช่วยเรื่องใดนั้น ต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเองดูนะครับ
นอกจากน้ำใสที่ช่วยเสริมมงคลแล้ว วัดแแห่งนี้ยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นั่นคือ บริเวณที่ฐานวัดที่สูงกว่า 13 เมตร โดยเป็นเพียงไม้มาขัดกันด้วยเทคนิคพิเศษเท่านั้น เสร็จออกมาเป็นวัดที่สวยงามมากๆ! และที่นี่ก็เป็นจุดที่ขึ้นชื่อมากๆเรื่องการชมใบไม้แดงในเกียวโตค่ะ หน้าซากุระก็งดงามฮิตไม่แพ้กัน
<<จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด>>
บริเวณทางเดินที่เยื้องกับตัววัด ที่จะสามารถมองเห็นวัด ใบไม้เปลี่ยนสี และวิวตัวเมืองเกียวโตได้ในภาพๆเดียว ที่นี่ยังมีเปิดไลท์อัพตอนกลางคืนให้ได้ชื่นชมใบไม้แดงเล่นแสงไฟยามค่ำคืนอีกด้วย
รายละเอียด
วัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera Temple)
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับดูใบไม้แดง: ปลายพ.ย. - ต้นธ.ค.
ที่ตั้ง: 1-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto-shi, Kyoto MAP
ระยะเวลาทำการ: ตลอดทั้งปี
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลาทำการ: 6.00 - 18.00 น. (ประตูปิด, ช่วงเวลาต่างกันออกไปตามฤดู)
ช่วงเวลาเปิดไฟไลท์อัพ: 12 พ.ย. - 4 ธ.ค. 2559 (เวลา 17.30 -21.00 น.)
วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kyoto นั่ง Kyoto City bus สาย 206 มุ่งหน้าไป Higashiyama-dori Kitaoji BusTerminal ประมาณ 15 นาที ลงป้าย Kiyomizu แล้วเดินต่อ 10 นาที
ค่าใช้จ่าย: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 200 เยน/ ช่วงกลางคืนชมไลท์อัพ ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 200 เยน
รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ
รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ หรือเรียกกันสั้นๆว่า รถไฟโทร็อคโค (Torokko Train) เป็นรถไฟชมวิววิ่งเชิ่อมบริเวณอาราชิยามะ (Arashiyama) และคาเมโอกะ (Kameoka) ที่ได้ชื่อว่ารถไฟสายโรแมนติกนั้น ก็เพราะรถไฟจะเคลื่อนตัวช้าๆให้เราได้สามารถกินลมชมวิวทิวทัศน์สวยๆของเขาอาราชิยามะ และแม่น้ำโฮซุกาว่า (Hozugawa River) ตลอดระยะทาง 7 กม. ในเวลา 25 นาทีได้นั่นเอง ตัวรถไฟถูกออกแบบแนวย้อนยุคด้วยเก้าอี้นั่งไม้ ทำให้ไม่ขัดตากับธรรมชาติ สวยงามตลอดการเดินทางเลย
<<จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด>>
บริเวณรอบสถานีโทร็อคโค โฮซุเคียว (Torokko Hozukyo) เรียบแม่น้ำโฮซุกาว่า (Hozugawa) ซึ่งมีมุมที่สามารถเห็นรถไฟวิ่งผ่านเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีได้ค่ะ แต่ช่วงใบไม้แดงนักท่องเที่ยวจะเยอะท่วมรถไฟมากๆ แนะนำให้ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าซักนิดหากต้องการที่นั่งค่ะ ไม่เช่นนั้นต้องยินตลอดเส้นทางหรือต้องรอขบวนหน้าเลยนะ สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีโทร็อคโคซากะ (Torokko Saga) หรือสถานี JR ในแถบภูมิภาคคันไซ
รายละเอียด
รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ (Sagano Romantic Train)
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับดูใบไม้แดง: ปลายพ.ย. - ต้นธ.ค.
เส้นทางเดินรถ: สถานี Torokko Sagano - สถานี Torokko Kameoka MAP
วิธีเดินทาง: (จุดหมาย สถานี Torokko Sagano) จากสถานี JR Kyoto นั่งรถไฟสาย JR San-in main line มุ่งหน้าไปทาง Sonobe ประมาณ 16 นาที ลงสถานี Sagano Arashiyama เดินต่อ 4 นาทีถึง สถานี Torokko Sagano
ราคาค่าโดยสาร: ระหว่างสถานี Torokko Saga และ Torokko Kameoka ขาเดียว ผู้ใหญ่ 620 เยน, เด็ก 310 เยน
วัดเอคันโด
วัดเอคันโด (Eikando Temple) หรือเดิมเรียกว่า วัดเซนรินจิ (Zenrinji Temple) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆขึ้นชื่อเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสีทั้งช่วงกลางวัน และไลท์อัพแสงไฟสวยๆตอนกลางคืน ภายในวัดมีทั้งอาราม สวน และสระน้ำ แต่ที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวคือ "เจดีย์ทาโฮโตะ" (Tahoto Pagoda) ที่ตั้งอยู่สูงกว่าอาคาร อารามอื่นๆค่ะ เจดีย์มีด้วยกัน 2 ชั้น ผู้มาเยือนสามารถเดินขึ้นไปชมวิวบนเจดีย์ได้ ใบไม้เปลี่ยนสีและทิวท้ศน์ของตัวเมืองเกียวโตที่อยู่เบื้องหน้าช่างงดงาม สมกับที่ติดอันดับ BEST 5 สถานที่ชมใบไม้แดงของเราจริงๆ
<<จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด>>
มุมที่ถ่ายจากด้านล่างตรงข้ามเจดีย์ทาโฮโตะ รูปที่ได้จะเหมือนกับเจดีย์ถูกโอบล้อมด้วยใบไม้สีส้มแดง โดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง และอีกจุดที่ไม่ควรพลาดคือ สระโฮโจ (Hojo Pond) ที่สามารถถ่ายรูปใบไม้แดงคู่กับสะพานไม้ได้ แนะนำให้ถ่ายตอนกลางคืนช่วงที่มีจัดไลท์อัพครับ เพราะใบไม้แดงและสะพานจะสะท้อนเงาในน้ำ เกิดเป็นวิวที่สวยงามแบบญี่ปุ่นโดยแท้จริง
รายละเอียด
วัดเอคันโด (Eikando Temple)
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับดูใบไม้แดง: ปลายพ.ย. - ต้นธ.ค.
ที่ตั้ง: 48 Eikando-cho Sakyo-ku Kyoto-shi Kyoto MAP
ระยะเวลาทำการ: ตลอดทั้งปี
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลาทำการ: 9.00 - 16.00 น. (ประตูปิด 17.00 น.)
ช่วงเวลาเปิดไฟไลท์อัพ: 8 พ.ย. - 4 ธ.ค. 2559 (เวลา 17.30 -20.30 น. ประตูปิด 21.00 น.)
วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kyoto นั่ง Kyoto City bus สาย 5 มุ่งหน้าไป Iwakura Soshajo-mae ประมาณ 30 นาที ลงป้าย Nanzen-ji Eikando-michi แล้วเดินต่อ 3 นาที
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็กประถม - มัธยมปลาย 400 เยน/ หอสมบัติ: ผู้ใหญ่ 1000 เยน, เด็กประถม - มัธยมปลาย 400 เยน/ ไลท์อัพ: มัธยมปลาย 400 เยน
ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกู
ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกู (Kitano Tenmangu Jinja) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "คิตาโนะ โนะ เท็นจินซามะ" เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักปราญช์ที่อุปถัมภ์ค้ำจุน และพัฒนาการศึกษา จีงได้ชื่อว่าเป็น "ศาลเจ้าแห่งการศึกษา" อีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นค่ะ เด็กๆมักจะไปขอพรกันช่วงสอบ ศาลเจ้าแห่งนี้นอกจากจะได้รับความนิยมว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าไปเยือนมากๆแล้ว ยังเป็นจุดชมดอกบ๊วยสีสวยในช่วงเริ่มเข้าหน้าใบไม้ผลิอีกด้วย
<<จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด>>
บริเวณสวนภายในวัดที่มีต้นไม้กว่า 250 ต้นที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลืองในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน กิ่งไม้จะโน้มตัวเข้าหาลำคลอง กลายเป็นอุโมงค์ใบไม้สวยงาม โดยมีสะพานแดงช่วยแต่งสี เพิ่มความรู้สึกในแบบญี่ปุ่นมากขึ้นไปอีก เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดครับ เมื่อน้ำในคลองสะท้อนสีสันของใบไม้ โลกเบื้องหน้าก็กลายเป็นสีส้ม สวยงาม เหมือนอยู่ในฝันเลย
รายละเอียด
ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกู (Kitano Tenmangu Jinja)
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับดูใบไม้แดง: ปลายพ.ย. - ต้นธ.ค. MAP
ที่ตั้ง: Bakuro-cho, Kamigyo-ku, Kyoto-shi, Kyoto
ระยะเวลาทำการ: ตลอดทั้งปี (หอสมบัติ เปิดให้เข้าชมทุกวันที่ 25 ของเดือน)
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลาทำการ: 5.00 - 18.00 น. (ประตูปิด)/ เดือนต.ค. - มี.ค. เปิด 5.30 - 15.00 น./ ทุกวันที่ 25 ของเดือน เปิด 6.00 - 21.00 น. (ประตูปิด)/ หอสมบัติ เปิด 9.00 - 16.00 น./ เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ เปิด 9.00 - 17.00 น.
ช่วงเวลาเปิดไฟไลท์อัพ: ต้นพ.ย. - ต้นธ.ค. 2559 (ช่วงอาทิตย์เริ่มตกดิน - 20.00 น.)
วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kyoto นั่ง Kyoto City bus สาย 50 มุ่งหน้าไป ประมาณ 30 นาที ลงป้าย Kitano Tenmangu-mae
ค่าใช้จ่าย: ฟรี/ หอสมบัติ: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็กมัธยมต้น - ปลาย 250 เยน, เด็กประถม 150 เยน/ สวนใบไม้แดง: ผู้ใหญ่ 700 เยน, เด็ก 350 เยน
ใครที่กำลังมองหาสถานที่บันทึกความทรงจำดีๆสไตล์ Autumn in Kyoto อยู่ละก็ ลองมาเที่ยว 5 สถานที่ที่ได้แนะนำดูนะครับ ความงดงามคงไม่สามารถบรรยายด้วยตัวอักษรได้หมด ต้องลองมาสัมผัสและเก็บความประทับใจด้วยตัวคุณเองแล้วหล่ะ ♡Fall in Love with Fall, in Kyoto♡
