ONE Day Trip 

แนะนำ 6 สถานที่เที่ยวในกรุงเทพ ไม่มีรถก็เที่ยวได้

วันนี้ แอดจะมาแจกแพลนเที่ยวกรุงเทพฯ 1 Days Trip  ในกรุงเทพฯ สามารถจัดให้คุณได้เพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ  รับรองว่าการเที่ยวกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ได้ทั้งบุญและอิ่มท้อง สถานที่ที่อยากจะแนะนำมีสถานที่ดังนี้ต่อไปนี้

ตอนเช้า

1. พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว (Grand Palace and Wat Phra Kaew)

เริ่มต้นวันด้วยการเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว  หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดารา พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย และเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาเยี่ยมชมมากที่สุด ชื่นชมสถาปัตยกรรมไทยและวัดพระแก้วที่มีพระแก้วมรกตเป็นพระ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องแวะไปไหว้หรือไปเยียมชม พระแก้วมรกต สักครั้ง ที่ วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อความเป็นสิริมงคล ใช้เวลาสัก 1-2 ชั่วโมงในการเดินชมสถาปัตยกรรมและศิลปะที่งดงามของไทย

เปิดให้เข้าชม : เปิดทุกวัน 08.30-15.30 น.

ค่าเข้าชม : คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 500 บาท

การเดินทาง : รถประจำทาง

-เดินทางไปพระบรมมหาราชวังและบริเวณใกล้เคียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้แก่ สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 43, 44, 47, 53, 59, 64, 80, 82, 91, 203, 503, 508, 512   รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก เวลาเดินทางขึ้นกับจุดเริ่มต้น

พิกัด : ถ. มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

2. วัดโพธิ์ (Wat Pho)

หลังจากนั้นสามารถเดินหรือนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปยังวัดโพธิ์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อชมพระพุทธไสยาสน์และสัมผัสการนวดแผนไทยที่มีชื่อเสียง วัดโพธิ์เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม ตั้งอยู่ถนนมหาราช ข้างพระบรมมหาราชวัง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดเก่าแก่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม

    5 จุดสำคัญเช็คอินในวัดโพธิ์

     1.พระวิหารพระพุทธไสยสาสน์หรือพระนอนวัดโพธิ์

     2.ตุ๊กตาจีน

     3.พระระบียงคดชั้นนอก-พระระเบียงคดชั้นใน

     4.จารึกวัดโพธิ์

     5.พระมหาเจยืดีสี่รัชกาล

    เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.30 น.

    ค่าเข้าชม : คนไทย ไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 300 บาท

    การเดินทาง: รถตุ๊กตุ๊ก เวลาเดินทางจากวัดพระแก้วมายังวัดโพธิ์  5-6 นาที  ค่าใช้จ่าย ประมาณ 60 บาท หรือ เดินเท้าใช้เวลาในการเดิน ประมาณ 10-15 นาที

    พิกัด : 2 ถนน สนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

กลางวัน

3. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม (Khlong Lat Mayom Floating Market)

ไปต่อกันด้วยการไปรับประทานอาหารกลางวัน จากวัดโพธิ์เดินทางไปที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้โดย เรือ รถแท็กซี่ รถเมย์ สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นตลาดน้ำคลองลัดมะยม เป็นตลาดน้ำบรรยากาศเรียบง่าย มีของขายตลอด 2 ฝากฝั่ง ลองชิมอาหารไทยแท้ๆ เช่น ขนมเบื้อง ปลาหมึกย่าง สตรีทฟู้ด ขนมเปียกปูน หรือก๋วยเตี๋ยวเรือ

    เปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.

    การเดินทาง : แท็กซี่หรือรถตุ๊กตุ๊ก เวลาเดินทาง ประมาณ 30-40 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร) ค่าใช้จ่าย ประมาณ 150-250 บาท (ขึ้นอยู่กับการต่อรองราคากับคนขับ)

     - รายละเอียด: แท็กซี่หรือรถตุ๊กตุ๊กเป็นวิธีที่สะดวกและเร็วที่สุดสำหรับการเดินทางจากวัดโพธิ์ไปยังตลาดน้ำคลองลัดมะยม

    รถเมล์ เวลาเดินทาง: ประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย ประมาณ 15-30 บาท

    - รายละเอียด: คุณสามารถนั่งรถเมล์สาย 57, 149 หรือสายอื่น ๆ ไปยังสถานี BTS บางหว้า จากนั้นต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่ไปยังตลาดน้ำคลองลัดมะยม

   เรือข้ามฟาก + แท็กซี่ เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย ประมาณ 100-200 บาท

    - รายละเอียด: คุณสามารถเดินทางจากวัดโพธิ์ไปยังท่าเรือท่าช้าง และคุณสามารถเดินเท้าจากวัดโพธ์ไปยังท่าเรือท่าช้าง ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที แล้วข้ามฟากไปยังฝั่งธนบุรี จากนั้นเรียกแท็กซี่หรือใช้บริการรถสองแถวไปยังตลาดน้ำคลองลัดมะยม

   พิกัด: 30/1 หมู่ที่ 15 ถนน บางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170     

บ่าย

4. วัดอรุณ (Wat Arun)

หลังจากอิ่มอร่อยที่ตลาดน้ำ นั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังวัดอรุณ ชมวิวที่สวยงามจากเจดีย์สูง และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก วัดอรุณเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สวยงามและเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพรปรางเจย์ดีขนาดใญ่สีขาวเป็นจุดสังเกต พระปรางค์สีขาวสวยงามที่ตั้งโดดเด่นสง่า เป็นจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่อยู่คู่ไทยมานาน

   เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 – 18.00 น.

   ค่าเข้าชม: คนไทยไมสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติคนละ 200 บาท

   การเดินทาง : รถสองแถว + รถเมล์ เวลาเดินทาง ประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย ประมาณ 20-40 บาท

    - รายละเอียด ขึ้นรถสองแถวจากตลาดน้ำคลองลัดมะยมไปยังสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า จากนั้นนั่งรถเมล์ต่อที่สถานีบางหว้า สาย 57 หรือ 149 ซึ่งจะพาคุณไปยังท่าเรือวัดอรุณได้ (หรือจะนั่ง BTS ไปลงที่สถานีวงเวียนใหญ่และต่อรถเมล์ไปยังท่าเรือวัดอรุณ)

   แท็กซี่ + เรือข้ามฟาก เวลาเดินทาง ประมาณ 45-60 นาที ค่าใช้จ่าย  ประมาณ 100-200 บาท

  -รายละเอียด นั่งแท็กซี่จากตลาดน้ำคลองลัดมะยมไปยังท่าเรือพรานนกหรือท่าเรือท่าช้าง ข้ามฟากไปยังท่าเรือวัดอรุณ

   พิกัด: 158 ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600

เย็น

5.เยาวราช

หลังจากเที่ยวชมวัดอรุณเป็นที่สุดท้ายแล้วเราก็จะพามาหาของกินที่เยาวราช ไชน่าทาวน์ ที่เป็นที่โด่งดังที่สุดในไทย รวมถึงยังโด่งดังไปจนถึงต่างประเทศในความเป็นย่าน สตรีทฟู้ด ที่มีของกินนานาชนิดริมสองข้างทางให้ได้อร่อยกันในราคาย่อมเยา นอกจากเรื่องของความอร่อยแล้ว เยาวราชยังเป็นย่านที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่กับกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน จึงเป็นอีกที่เที่ยวหนึ่งที่มีเสน่ห์มากๆ ในบริเวณโดยรอบยังมีทั้ง วัด พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า และอาร์ท แกลเลอรี่ต่างๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี รวมถึงยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ภาพแนววิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนสะท้อนออกมาให้ได้เห็นกันเป็นประจำทุกวัน

    เปิด : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน

    การเดินทาง : เรือข้ามฟาก + MRT เวลาเดินทาง ประมาณ 30-40 นาที ค่าใช้จ่าย ประมาณ 20-30 บาท

     -รายละเอียด ขึ้นเรือข้ามฟากจากท่าเรือวัดอรุณไปยังท่าเรือท่าช้างหรือท่     เรือท่าพระจันทร์เดินไปสถานี MRT สนามไชย (ใกล้ท่าเรือท่าช้าง) หรือลงที่สถานี MRT อิสรภาพ (ใกล้ท่าเรือท่าพระจันทร์)นั่ง MRT ไปยังสถานีวัดมังกร ซึ่งอยู่ใกล้กับเยาวราช

     เรือด่วนเจ้าพระยา + เดิน เวลาเดินทาง ประมาณ 30-40 นาที ค่าใช้จ่าย ประมาณ 20-40 บาท

    -รายละเอียด: ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าเรือวัดอรุณไปยังท่าเรือราชวงศ์จากท่าเรือราชวงศ์ เดินเท้าไปยังเยาวราช (ระยะทางประมาณ 500 เมตร)

    พิกัด : ถ. เยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100

6. ถนนข้าวสาร (Khao San Road)

สถานที่สุดท้ายถนนข้าวสารตะลุยเที่ยวยามราตรี ถนนข้าวสารเป็นแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว ลองอาหารข้างทาง ซื้อของฝาก หรือผ่อนคลายในบาร์หรือร้านกาแฟเล็กๆ ที่นั้นคึกคักตลอดทั้งวันและทั้งคืน โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ถนนทั้งสายจะปะดับประดาไปด้วยแสงไฟจากป้ายของร้านรวงต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเสียงดนตรีจากผับบาร์คอยบรรเลงสร้างสีสันให้ผู้คนที่มาเที่ยวอยู่ตลอด สถานบันเทิงส่วนใหญ่ในถนนข้าวสารก็มีทั้งผับ บาร์ และร้านอาหารทั่วไป แต่ละร้านก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันทั้งดนตรี อาหาร และเครื่องดื่ม